เมื่อเราทราบว่าความเจ็บไข้ได้ป่วยเหตุหนึ่งมาจากการกินอาหาร เราต้องแก้ที่การกินอาหาร เรียกว่าเอาเกลือจิ้มเกลือ ในขั้นแรกจะขอแนะนำการล้างพิษเอาสิ่งที่เป็นพิษออกจากร่างการ (ด้วยการกิน) ตามวิธีแบบ "ธรรมชาติบำบัด"
สูตรที่ 1 ล้างไขมันในลำไส้
ใช้ : โยเกิร์ต + นมสด (ประเภทพร่องไขมันก็ได้) + น้ำผึ้ง + มะนาว
นำมาผสมกันในอัตราส่วนตามความชอบ ผสมแล้วดื่มตอนเช้า ในโยเกิร์ตมีแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส เมื่อเอามาผสมกับนมสด น้ำผึ้ง และมะนาว เพื่อเพิ่มตัวแบคทีเรียให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น แล้วจะเข้าไปทำลายไขมันในลำไส้
สูตรที่ 2 ล้างพิษด้วยเห็ด 3 อย่าง
ที่มาภาพ thaihealth.or.th
ใช้ : เห็ดสามชนิดที่รับประทานได้ นำมาต้มเอาน้ำมาดื่ม (ห้ามนำไปผัด) หรือทำอาหารประเภทแกงจืด แกงส้ม ตุ๋นไข่
ในกระบวนการล้างพิษมันมีสูตรหลายตัวที่ช่วยในการล้างพิษหลายสูตร แต่ว่าบังเอิญอาจารย์สุทธิวัสส์ไปได้สูตรนี้จากผลพวงของงานวิจัย คือ สมัยที่ท่านหุ้นกันกับเพื่อนเป็นโรงงานผลิตยา และจะผลิตเห็ดหลินจือที่ดีที่สุดในโลก แพราะเห็ดหลินจือที่ขายในท้องตลาดมันไม่ดี เพราะกระบวนการผลิตยังไม่ได้ตัวของหลินจือที่ได้มาตรฐาน ก็พยายามที่จะค้นหาวิธีให้ได้เห็ดหลินจือที่ได้คุณภาพดี มีการวิจัยว่าลองให้เห็ดหลินจือหลายตัว หลายสายพันธุ์
จนกระทั่งทดลองกับหลินจือ ลองเอาเห็ดธรรมดาไปทดลองร่วมด้วย คราวนี้สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น เราพบว่าเมื่อเอาเห็ดธรรมดาที่รับประทานได้ 3 ชนิดขึ้นไป มาปรุงอาหารร่วมกัน ตัวอนุพันธ์ของเห็ดจะถักทอกันแล้วไปหุ้มสารพิษได้ โดยเฉพาะพวกอนุมูลอิสระ ซีสต์ เนื้องอก มะเร็ง อัลฟาท็อกซิล ที่อยู่ในตัวมันหุ้มออกมาได้ พอดีหลังจากนั้นโครงการผลิตเห็ดหลินจือจึงล้มโครงการ
อาจารย์สุวัสส์ก็เอาเรื่องของการใช้เห็ด 3 ชนิดมาเผยแพร่ทั่วประเทศ มีคนเอาเห็ด 3 ชนิดมาปรุงเป็นอาหาร แต่ห้ามผัดน้ำมัน ขอให้เป็นแกงเลียง แกงส้ม ต้มยำ น้ำซุปก๋วยเตี๋ยว ขอให้ใส่เห็ด 3 อย่างที่รับประทานได้ ขอให้หาให้ได้ 3 - 4 อย่าง เช่น เห็ดหอม เห็ดหูหนูขาว เห็ดหูหนูดำ เห็ดอะไรก็ได้ที่กินได้รวมกัน ทำได้ทั้งอาหารคาวและเครื่องดื่ม
บางคน เดี๋ยวนี้ต้มขาย มี 3 อย่าง เห็ดหูหนูขาว เห็หูหนูดำ เห็ดหอม ต้มด้วยกัน ใส่มะตูม ใบเตย ให้หอม เติมน้ำตาลกรวดก็เป็นเครื่องดื่มที่ขายกัน ขายดิบขายดี เป็นตัวล้างพิษได้ เพราะว่าาการสะสมของพิษไวรัสบีลงตับ ก็ถูกชำระสะสางด้วยตัวนี้ได้ดี นี่ก็เป็นอีกสูตรหนึ่งที่เผยแพร่ถึงการล้างพิษ
สูตรที่ 3 การล้างหินปูนในหลอดเลือด
ใช้ : กระเจี๊ยบแดงสด หรือกระเจี๊ยบแดงแห้ง ต้มกับพุทราไทยแห้ง ต้มดื่มน้ำ
ที่มาภาพ store4thai.myreadyweb.com
มีหมอท่านหนึ่งจะโจมตีเรื่องน้ำตาลมาก ว่าน้ำตาลเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะให้เหนียวเกาะที่หลอดเลือด ปกติหลอดเลือดคนจะลื่น พอน้ำตาลไปเกาะก็เหนียว เวลาโคเลสเตอรอล (cholesterol โคเล็ส'เทรรัล ไขมันในเลือด พบในมันสัตว์ น้ำดี เลือด เนื้อเยื่อสมอง น้ำนม ไขแดง ตัว ไต) ไหลผ่านมาน้ำตาลก็เกาะโคเลสเตอรอลไว้อีก ปกติโคเลสเตอรอล มีประโยชน์ทำให้คนอารมณ์ดี มีความสุข พอเจอน้ำตาลมันเหนี่ยวไว้ ทำให้โคเลสเตอรอลซึ่งเป็นตัวดี กลายเป็นโคเลสเตอรอลตัวร้าย ทำให้อุดตันในหลอดเลือด
ตัวที่ล้างได้ ล้างตัวโคเลสเตอรอลในหลอดเลือดได้ หรือบางทีเกิดหินปูนตามร่างกาย ตามสมอง ตามตัว ไม่มีอะไรเข้าไปล้างหินปูนได้ เราพบว่า การเอากระเจี๊ยบแดงสดหรือแห้ง มาต้มกับพุทรา อันนี้สูตรโบราณ เขาจะใช้พุทราป่า พุทราบ้าน พุทราอยุธยา ต้มกับน้ำกระเจี๊ยบ ถ้าหายาก ก็เอาพุทราจีน คือ พุทราแห้งทุกชนิด แต่ถ้าเป็นพุทราไทย แบบพุทราป่า จะประหยัดและหอมมาก หอมกว่าพุทราจีน แล้วไปล้างหินปูนในสมอง แก้คนเป็นอัลไซเมอร์ได้ ล้างหลอดเลือดให้สะอาด
เพราะฉะนั้นที่บอกว่าน้ำตาลมันเป็นโทษอย่างเดียวไม่จริง ที่จริงแล้วน้ำตาลทรายมันบำรุงปอด มันมีผลทางยา แต่ว่าอย่ากินมากเท่านั้นเอง คือ ทุกอย่างไม่ว่าอะไรไม่ควรรับประทานมาก เพราะจะไปแทนที่ สารอาหารตัวอื่น เทนที่เราจะได้รับอย่างละนิด ให้เมันไปใช้ประโยชน์ เราไปเติมอย่างเดียว อย่างอื่นก็ไม่ได้
ไม่ใช่พอรู้ว่าอะไรมีประโยชน์รับประทานมากๆ อย่างเดียว อย่างนี้ไม่ได้ ต้องรับประทานให้หลากหลาย รับประทานเข้าไปเถอะ แต่ต้องรู้จักว่ารับประทาน แล้วมีอะไรไปแก้ นี่เป็นเรื่องของการล้าง ล้างระบบดูดซึม ล้างสารพิษ ในตัว ในตับ ล้างหลอดเลือด
.....ติดตามต่อตอนที่ 2.....
สูตรที่ 1 ล้างไขมันในลำไส้
ใช้ : โยเกิร์ต + นมสด (ประเภทพร่องไขมันก็ได้) + น้ำผึ้ง + มะนาว
นำมาผสมกันในอัตราส่วนตามความชอบ ผสมแล้วดื่มตอนเช้า ในโยเกิร์ตมีแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส เมื่อเอามาผสมกับนมสด น้ำผึ้ง และมะนาว เพื่อเพิ่มตัวแบคทีเรียให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น แล้วจะเข้าไปทำลายไขมันในลำไส้
สูตรที่ 2 ล้างพิษด้วยเห็ด 3 อย่าง
ที่มาภาพ thaihealth.or.th
ใช้ : เห็ดสามชนิดที่รับประทานได้ นำมาต้มเอาน้ำมาดื่ม (ห้ามนำไปผัด) หรือทำอาหารประเภทแกงจืด แกงส้ม ตุ๋นไข่
ในกระบวนการล้างพิษมันมีสูตรหลายตัวที่ช่วยในการล้างพิษหลายสูตร แต่ว่าบังเอิญอาจารย์สุทธิวัสส์ไปได้สูตรนี้จากผลพวงของงานวิจัย คือ สมัยที่ท่านหุ้นกันกับเพื่อนเป็นโรงงานผลิตยา และจะผลิตเห็ดหลินจือที่ดีที่สุดในโลก แพราะเห็ดหลินจือที่ขายในท้องตลาดมันไม่ดี เพราะกระบวนการผลิตยังไม่ได้ตัวของหลินจือที่ได้มาตรฐาน ก็พยายามที่จะค้นหาวิธีให้ได้เห็ดหลินจือที่ได้คุณภาพดี มีการวิจัยว่าลองให้เห็ดหลินจือหลายตัว หลายสายพันธุ์
จนกระทั่งทดลองกับหลินจือ ลองเอาเห็ดธรรมดาไปทดลองร่วมด้วย คราวนี้สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น เราพบว่าเมื่อเอาเห็ดธรรมดาที่รับประทานได้ 3 ชนิดขึ้นไป มาปรุงอาหารร่วมกัน ตัวอนุพันธ์ของเห็ดจะถักทอกันแล้วไปหุ้มสารพิษได้ โดยเฉพาะพวกอนุมูลอิสระ ซีสต์ เนื้องอก มะเร็ง อัลฟาท็อกซิล ที่อยู่ในตัวมันหุ้มออกมาได้ พอดีหลังจากนั้นโครงการผลิตเห็ดหลินจือจึงล้มโครงการ
อาจารย์สุวัสส์ก็เอาเรื่องของการใช้เห็ด 3 ชนิดมาเผยแพร่ทั่วประเทศ มีคนเอาเห็ด 3 ชนิดมาปรุงเป็นอาหาร แต่ห้ามผัดน้ำมัน ขอให้เป็นแกงเลียง แกงส้ม ต้มยำ น้ำซุปก๋วยเตี๋ยว ขอให้ใส่เห็ด 3 อย่างที่รับประทานได้ ขอให้หาให้ได้ 3 - 4 อย่าง เช่น เห็ดหอม เห็ดหูหนูขาว เห็ดหูหนูดำ เห็ดอะไรก็ได้ที่กินได้รวมกัน ทำได้ทั้งอาหารคาวและเครื่องดื่ม
บางคน เดี๋ยวนี้ต้มขาย มี 3 อย่าง เห็ดหูหนูขาว เห็หูหนูดำ เห็ดหอม ต้มด้วยกัน ใส่มะตูม ใบเตย ให้หอม เติมน้ำตาลกรวดก็เป็นเครื่องดื่มที่ขายกัน ขายดิบขายดี เป็นตัวล้างพิษได้ เพราะว่าาการสะสมของพิษไวรัสบีลงตับ ก็ถูกชำระสะสางด้วยตัวนี้ได้ดี นี่ก็เป็นอีกสูตรหนึ่งที่เผยแพร่ถึงการล้างพิษ
สูตรที่ 3 การล้างหินปูนในหลอดเลือด
ใช้ : กระเจี๊ยบแดงสด หรือกระเจี๊ยบแดงแห้ง ต้มกับพุทราไทยแห้ง ต้มดื่มน้ำ
ที่มาภาพ store4thai.myreadyweb.com
มีหมอท่านหนึ่งจะโจมตีเรื่องน้ำตาลมาก ว่าน้ำตาลเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะให้เหนียวเกาะที่หลอดเลือด ปกติหลอดเลือดคนจะลื่น พอน้ำตาลไปเกาะก็เหนียว เวลาโคเลสเตอรอล (cholesterol โคเล็ส'เทรรัล ไขมันในเลือด พบในมันสัตว์ น้ำดี เลือด เนื้อเยื่อสมอง น้ำนม ไขแดง ตัว ไต) ไหลผ่านมาน้ำตาลก็เกาะโคเลสเตอรอลไว้อีก ปกติโคเลสเตอรอล มีประโยชน์ทำให้คนอารมณ์ดี มีความสุข พอเจอน้ำตาลมันเหนี่ยวไว้ ทำให้โคเลสเตอรอลซึ่งเป็นตัวดี กลายเป็นโคเลสเตอรอลตัวร้าย ทำให้อุดตันในหลอดเลือด
ตัวที่ล้างได้ ล้างตัวโคเลสเตอรอลในหลอดเลือดได้ หรือบางทีเกิดหินปูนตามร่างกาย ตามสมอง ตามตัว ไม่มีอะไรเข้าไปล้างหินปูนได้ เราพบว่า การเอากระเจี๊ยบแดงสดหรือแห้ง มาต้มกับพุทรา อันนี้สูตรโบราณ เขาจะใช้พุทราป่า พุทราบ้าน พุทราอยุธยา ต้มกับน้ำกระเจี๊ยบ ถ้าหายาก ก็เอาพุทราจีน คือ พุทราแห้งทุกชนิด แต่ถ้าเป็นพุทราไทย แบบพุทราป่า จะประหยัดและหอมมาก หอมกว่าพุทราจีน แล้วไปล้างหินปูนในสมอง แก้คนเป็นอัลไซเมอร์ได้ ล้างหลอดเลือดให้สะอาด
เพราะฉะนั้นที่บอกว่าน้ำตาลมันเป็นโทษอย่างเดียวไม่จริง ที่จริงแล้วน้ำตาลทรายมันบำรุงปอด มันมีผลทางยา แต่ว่าอย่ากินมากเท่านั้นเอง คือ ทุกอย่างไม่ว่าอะไรไม่ควรรับประทานมาก เพราะจะไปแทนที่ สารอาหารตัวอื่น เทนที่เราจะได้รับอย่างละนิด ให้เมันไปใช้ประโยชน์ เราไปเติมอย่างเดียว อย่างอื่นก็ไม่ได้
ไม่ใช่พอรู้ว่าอะไรมีประโยชน์รับประทานมากๆ อย่างเดียว อย่างนี้ไม่ได้ ต้องรับประทานให้หลากหลาย รับประทานเข้าไปเถอะ แต่ต้องรู้จักว่ารับประทาน แล้วมีอะไรไปแก้ นี่เป็นเรื่องของการล้าง ล้างระบบดูดซึม ล้างสารพิษ ในตัว ในตับ ล้างหลอดเลือด
.....ติดตามต่อตอนที่ 2.....
creativity of writer is purely impressive. It has touched to the level of expertise with his writing. Everything is up to the mark. Written perfectly and I can use such information for my coming assignment.เห็ด หลิน จื อ แคปซูล
ตอบลบMost of the blogs pretend themselves as most usable and updated blogs with new information but sometime truth might different. I want to share some facts related to this subject which will help people to enhance their skills.เห็ด หลิน จื อ ราคา
ตอบลบ