ธรรมชาติบำบัด หมายถึงการดูแลตัวเองและคนรอบข้างให้มีสุขภาพดี โดยไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ใช้ยา ไม่ผ่าตัด เป็นเรื่องของธรรมชาติบำบัด ส่วนการเจ็บป่วย ถึงขั้นต้องกินยา ต้องผ่าตัด นั่นเป็นเรื่องของหมอแล้ว
นักธรรมชาติบำบัด ซึ่งทุกคนเป็นได้ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษยชน ที่ต้องดูแลตนเองและคนรอบข้างเป็นงานของนักธรรมชาติบำบัดทุกคน แต่เราต้องมีขอบเขต
สิ่งที่นักธรรมชาติบำบัดจะใช้ในการดูแลสุขภาพเรา จะพูดถึงพืชสมุนไพร เรื่องสมุนไพร จะจำแนกสมุนไพรออกได้เป็น 3 กลุ่ม เพื่อให้ทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น
สมุนไพรกลุ่มที่ 1 เรียกว่า สมุนไพรที่เป็นอาหาร
ถ้าเป็นสมุนไพรที่เป็นอาหาร อย่างนี้นักธรรมชาติบำบัดสอนให้คนนำมากินเป็นอาหารได้ กินสมุนไพรแล้วต้านโรค
สมุนไพรกลุ่มที่ 2 เรียกว่า สมุนไพรที่เป็นยา
หมายความว่าเป็นสมุนไพรที่โดยปกติคนไม่เอามารับประทานเป็นอาหาร แต่ใช้เพื่อเป็นยาโดยเฉพาะ เช่น ฟ้าทะลายโจร เวลาพูดเรื่องฟ้าทะลายโจร ต้องบอกว่านี่มันเป็นงานของเภสัชกร และของแพทย์ เราไม่ควรไปรู้จักมันเลยจะดีกว่า นอกจากว่า เวลาเจ็บป่วย แล้วให้ท่านเหล่านั้นเป็นผู้แนะนำเรา
แต่สมุนไรพที่เป็นอาหาร กินผิดกินถูกไม่เป็นอันตราย แต่ถ้ากินถูกก็ได้กำไร สมุนไพรกลุ่มที่ ซึ่งเป็นยา ยังไม่ใช่เป็นยาอันตราย นัำธรรมชาติบำบัดจะไม่ยุ่งกับเรื่องนั้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้มีความรู้เฉพาะทางคือแพทย์และเภสัชกรเท่านั้น
สมุนไพรกลุ่มที่ 3 เรียกว่าสมุนไพรที่เป็นยาพิษ
ที่จริงพวกนี้ก็เป็นสมุนไพร ถ้าว่ากันตามหลักของหมอชีวกโกมารภัจ ท่านอาจารย์หมอในสมัยพุทธกาล พวกสารหนู กำมะถัน มันเป็นสมุนไพรที่เป็นยาพิษ แต่ว่าแพทย์หรือเภสัชยากรสามารถเอาไปทำยาได้ สารหนูก็เหมือนกัน ที่จริงสารหนูมันคือยาพิษ กินเข้าไปตายแน่นอน แต่มันไปเข้าตำรับยาลม ยาแก้ลมที่เรากินกันต้องมีสารหนู มันถึงจะทรงสรรพคุณ แต่เมื่อเข้าอยู่ในตำรับยาแล้ว มันไม่เป็นพิษ แต่ต้องปรุงโดยเภสัชกรหรือแพทย์
จากหนังสือ "กินอย่างไรจึงจะมีสุขภาพดี"
อ. สทธิวัสส์ คำภา (บรรยาย)
จิระวิทย์ ศุภนันทกานต์ (เขียน/เรีบเรียง)
นักธรรมชาติบำบัด ซึ่งทุกคนเป็นได้ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษยชน ที่ต้องดูแลตนเองและคนรอบข้างเป็นงานของนักธรรมชาติบำบัดทุกคน แต่เราต้องมีขอบเขต
สิ่งที่นักธรรมชาติบำบัดจะใช้ในการดูแลสุขภาพเรา จะพูดถึงพืชสมุนไพร เรื่องสมุนไพร จะจำแนกสมุนไพรออกได้เป็น 3 กลุ่ม เพื่อให้ทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น
สมุนไพรกลุ่มที่ 1 เรียกว่า สมุนไพรที่เป็นอาหาร
ถ้าเป็นสมุนไพรที่เป็นอาหาร อย่างนี้นักธรรมชาติบำบัดสอนให้คนนำมากินเป็นอาหารได้ กินสมุนไพรแล้วต้านโรค
สมุนไพรกลุ่มที่ 2 เรียกว่า สมุนไพรที่เป็นยา
หมายความว่าเป็นสมุนไพรที่โดยปกติคนไม่เอามารับประทานเป็นอาหาร แต่ใช้เพื่อเป็นยาโดยเฉพาะ เช่น ฟ้าทะลายโจร เวลาพูดเรื่องฟ้าทะลายโจร ต้องบอกว่านี่มันเป็นงานของเภสัชกร และของแพทย์ เราไม่ควรไปรู้จักมันเลยจะดีกว่า นอกจากว่า เวลาเจ็บป่วย แล้วให้ท่านเหล่านั้นเป็นผู้แนะนำเรา
แต่สมุนไรพที่เป็นอาหาร กินผิดกินถูกไม่เป็นอันตราย แต่ถ้ากินถูกก็ได้กำไร สมุนไพรกลุ่มที่ ซึ่งเป็นยา ยังไม่ใช่เป็นยาอันตราย นัำธรรมชาติบำบัดจะไม่ยุ่งกับเรื่องนั้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้มีความรู้เฉพาะทางคือแพทย์และเภสัชกรเท่านั้น
สมุนไพรกลุ่มที่ 3 เรียกว่าสมุนไพรที่เป็นยาพิษ
ที่จริงพวกนี้ก็เป็นสมุนไพร ถ้าว่ากันตามหลักของหมอชีวกโกมารภัจ ท่านอาจารย์หมอในสมัยพุทธกาล พวกสารหนู กำมะถัน มันเป็นสมุนไพรที่เป็นยาพิษ แต่ว่าแพทย์หรือเภสัชยากรสามารถเอาไปทำยาได้ สารหนูก็เหมือนกัน ที่จริงสารหนูมันคือยาพิษ กินเข้าไปตายแน่นอน แต่มันไปเข้าตำรับยาลม ยาแก้ลมที่เรากินกันต้องมีสารหนู มันถึงจะทรงสรรพคุณ แต่เมื่อเข้าอยู่ในตำรับยาแล้ว มันไม่เป็นพิษ แต่ต้องปรุงโดยเภสัชกรหรือแพทย์
จากหนังสือ "กินอย่างไรจึงจะมีสุขภาพดี"
อ. สทธิวัสส์ คำภา (บรรยาย)
จิระวิทย์ ศุภนันทกานต์ (เขียน/เรีบเรียง)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น